ดร.ริชาร์ด เดวิดสัน ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญ (ที่ไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์) คนแรกที่ UN เชิญให้เข้าร่วมการวิจัย “The World Happiness Report” ในปี 2015
ตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆสี่สิบกว่าปีก่อน เขาได้เดินทางมาแถบเอเซียและเรียนรู้การนั่งสมาธิ เขาพบว่ามันให้ผลดีมาก แต่ต้องแอบฝึกไม่บอกใคร เพราะเพื่อนในแวดวงนักวิทยาศาสตร์ยังไม่ยอมรับ!
จนในปี 1992 ที่อาจารย์ได้พบกับท่านดาไลลามะเป็นครั้งแรก
ท่านดาไลลามะถามว่า ทำไมอาจารย์ไม่เอาเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ซึ่งอาจารย์เชี่ยวชาญ มาศึกษาสิ่งนี้เล่า?!
ตั้งแต่นั้นมา ดร. เดวิดสันได้ศึกษาเรื่องสมาธิ ความสุของค์รวม ความเมตตา ฯลฯ โดยใช้วิทยาศาสตร์สมองมาพิสูจน์กันชัดๆ
แล้วเขาก็สามารถพิสูจน์อย่างสิ้นสงสัยได้ว่าการนั่งสมาธิ มีผลต่อส่วนของสมองที่ตอบสนองต่อภาวะความสุขจริงๆ
เขาได้ค้นพบ 4 ปัจจัย ที่เมื่อเราทำได้มากขึ้น
เราจะมีชีวิตที่เปี่ยมสุขทั้งกายใจ
ซึ่งมีหลักฐานทางสมองยืนยันชัดเจน นั่นคือ
- Resilience (ทุกข์แล้วฟื้นเร็ว ล้มแล้วลุกเร็ว)
- Positive Outlook (มองโลกในแง่บวก)
- Attention (มีสติและสมาธิอยู่กับสิ่งตรงหน้า)
- Generosity (มีใจกว้าง เอื้อเฟื้อ)
ที่สำคัญ เขายืนยันว่า พวกเราทุกคนฝึกได้ สมองของเราเปลี่ยนแปลงได้ตลอดแม้อายุมาก ไม่มีใครแก่เกินฝึก
คนที่สุขง่าย สุขมาก ไม่ใช่เพราะมีอะไรมากกว่าคนอื่น แต่เพราะสภาพใจเขาฝึกมาดีกว่า
อยากมีความสุข อย่านั่งรอค่ะ มาเรียนรู้ที่จะฝึกสมองและใจเรา
จากไอเดียระดับโลก สู่การลงมือทำระดับเรา
ในบรรดา 4 ปัจจัยนี้ สมองของเปลี่ยนได้ยากง่ายต่างกัน
สิ่งง่ายๆ ที่ทุกคนฝึกได้ คือ “การให้” ในทุกวัน
ให้เวลา ให้การรับฟัง ให้รอยยิ้ม
ให้ความเห็นอกเห็นใจ ให้ความเอาใจใส่
ให้คำแนะนำ ให้กำลังใจ ให้ข้อมูล….
เหล่านี้ ล้วนแต่เป็นการให้ที่ไม่ต้องใช้สตางค์เลย
สิ่งสำคัญคือ ก่อน-ระหว่าง-หลัง การให้ขอให้สอนใจเราให้ “ปรารถนาดี” ต่อเพื่อนมนุษย์ เพราะนั่นคือวิธี “เปิดสวิตช์” วงจรสมองความสุขใจเราจะรู้สึกเชื่อมโยงกันเชื่อมโยงกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเรา รู้สึกอบอุ่น มั่นคง เมื่อจิตใจดี ส่งผลต่อสุขภาพกายด้วยค่ะ
ขอให้เพื่อนๆ มีความสุขในทุกวันทำงานในสัปดาห์นี้ค่ะ